PDPA_partners

ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย


1. ข้อความเบื้องต้นเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1.1 นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจนี้ (“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) อธิบายวิธีการที่ บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกต่อไปว่า “บริษัทฯ” “เรา” หรือ “ของเรา”) เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล (ตามที่นิยามไว้ในนโยบายนี้) ของพนักงาน ผู้รับจ้าง บุคลากร ผู้ที่มีอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น และผู้ติดต่ออื่นๆ (“ท่าน” หรือ “ของท่าน”) ของพันธมิตรทางธุรกิจของเรา (เช่น ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการ (Supplier) ผู้ขาย (Vendor) ผู้ให้บริการและผู้รับจ้าง (Service Provider and Outsourcer)) (แต่ละรายเรียกว่า “พันธมิตรทางธุรกิจ”) ซึ่งรวมถึงข้อมูลของบุคคลที่สามใดๆ ที่ท่านให้ไว้กับเราเพื่อคุ้มครองคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1.2 นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้กับช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าต่อหน้า จากสำนักงานขายโครงการ สถานประกอบการของเรา งานกิจกรรม ทางโทรศัพท์ หรือทางออนไลน์ผ่านทางอีเมลหรือแพลตฟอร์มโซเลียลมีเดีย (เช่น Webpage Facebook หรือ Line) และช่องทางอื่นใดที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ

1.3 เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่นิยามไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (ตามที่นิยามไว้ในนโยบายนี้)

1.4. บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและเพื่อให้มั่นใจว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อใช้บังคับแทนเป็นครั้งคราว) เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศที่เราเข้าไปและมุ่งหมายจะเข้าไปดำเนินธุรกิจ ("กฎหมายที่ใช้บังคับ") บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เท่านั้น

1.5. โปรดอ่านเนื้อหาต่อไปนี้อย่างระมัดระวังเพื่อทำความเข้าใจมุมมองและการปฏิบัติของ บริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและวิธีการที่เราจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลบางประการเกี่ยวกับท่านมีความจำเป็นหรือถูกบังคับตามกฎหมายที่เรามีอยู่ในปัจจุบันและอาจมีขึ้นในอนาคต หากท่านไม่ตกลงที่จะให้ข้อมูลดังกล่าว เราจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือภาระผูกพันของเราแก่ท่านได้

1.6. ประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ โดยมีดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการปรับเปลี่ยน แก้ไข ลบ และปรับปรุงประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว บริษัทฯ จะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อแจ้งให้ท่านทราบและในลักษณะที่เหมาะสมถึงการปรับเปลี่ยนสำคัญที่มีต่อข้อกำหนดใดก็ตามในประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ (เช่น จัดส่งนโยบายที่แก้ไขให้ท่านทางอีเมล พร้อมระบุวันที่มีผลบังคับครั้งใหม่ หรือประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทางเว็บไซต์ของเรา)

 

 

  1. 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน

เราอาจมีการเก็บรวบรวมหรือรับข้อมูลประเภทดังต่อไปนี้ซึ่งอาจรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงหรือโดยอ้อมจากท่านหรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ หรือผ่านทางบริษัทแม่ หรือจากบริษัทย่อยของเรา (“บริษัทย่อย”)

ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจมีการเก็บรวบรวมมีดังนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านที่ท่านให้ไว้กับเราด้วยการสื่อสารกับเราหรือข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน ข้อมูลดังกล่าวอาจรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ

(ก) ข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ วันเกิด สัญชาติ สถานภาพการสมรส รูปถ่าย ข้อมูลเกี่ยวกับงาน (เช่น ตำแหน่ง ประเภทของผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทที่ท่านทำงานให้ หรือได้รับการจ้างงาน หรือที่ท่านมีหุ้นส่วน) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารระบุตัวตนอื่นที่คล้ายกันที่ออกโดยรัฐบาล ลายมือชื่อ บันทึกจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลยานพาหนะ (เช่นสำเนาใบคู่มือจดทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อ และสี) ข้อมูลทางการเงิน (เช่นชื่อบัญชีและหมายเลขสมุดบัญชีธนาคาร) และเอกสารระบุตัวตนอื่น

(ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ไปรษณีย์ สถานที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล Line ID และข้อมูลอื่นที่คล้ายกัน

(ค) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ศาสนาที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชน เชื้อชาติในเอกสารการยืนยันตัวตน

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ พยาน หรือคู่กรณี ซึ่งรวมถึง ชื่อ อีเมล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดที่ท่านได้ให้ไว้แก่เราในทุกรูปแบบ

ในการให้ข้อมูลของบุคคลที่สามแก่เรา ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำดังกล่าว และอนุญาตให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายส่วนบุคคลนี้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น หากจำเป็น

แม้ว่าข้อมูลใดภายใต้ข้อ 2. อาจไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล แต่ถ้ารวมกับข้อมูลอื่นหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลดังกล่าวอาจใช้ระบุตัวตนท่านได้ จึงถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้เช่นกัน ดังนั้น เราจะปฏิบัติกับข้อมูลนี้โดยใช้มาตรฐานเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม หากเราประมวลผลข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้หรือในรูปแบบที่รวมผลข้อมูลซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนท่านได้อีกต่อไป ในกรณีนี้ ประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะไม่ใช้บังคับ

 

  1. 3. เหตุใดเราจึงเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและอาศัยฐานทางกฎหมายใดเพื่อใช้รับรองกิจกรรมดังกล่าว

บริษัทฯ และบุคคลที่สามที่อาจกระทำการแทนเรา อาจเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ได้อธิบายไป โดยอาศัยฐานโดยชอบด้วยกฎหมายอันได้แก่ (1) ความยินยอมของท่าน (2) ความจำเป็นในการปฏิบัติตามข้อสัญญากับท่าน สำหรับการริเริ่มหรือการดำเนินการตามสัญญากับท่าน (3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลที่สาม เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์ของท่านและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) การปฏิบัติตามกฎหมายของเรา (5) ประโยชน์ต่อชีวิต กล่าวคือ ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (6) เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องในทางกฎหมายในอนาคต เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

 

3.1 วัตถุประสงค์ต่อไปนี้จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากท่าน: กิจกรรมที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน

เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังจะกล่าวต่อไปนี้ ซึ่งเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องการขอความยินยอม ซึ่งได้แก่  ศาสนาที่ระบุ (ในบัตรประจำตัวประชาชน) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน เชื้อชาติ (ในเอกสารยืนยันตัวตน) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน  ประวัติอาชญากรรม เพื่อความมั่นคง ปลอดภัย และการป้องกันประโยชน์ของเรา หรือประโยชน์ของบุคคลที่สาม ทั้งนี้ หากฐานทางกฎหมายคือความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้และภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้มาโดยอาศัยความยินยอมของท่านก่อนที่จะถอนความยินยอม

3.2 วัตถุประสงค์ที่เราอาจดำเนินการโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ก) การคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อประเมินความเหมาะสมของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการอำนวยความสะดวกในการร่วมประมูล เพื่อออกคำขอใบเสนอราคา และเพื่อทำสัญญากับท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ

(ข) วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เพื่อการติดต่อ ริเริ่ม หรือบริหารความสัมพันธ์เชิงสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสื่อสารกับท่านและพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ เพื่อดำเนินธุรกรรมที่ทำขึ้นโดยพันธมิตรทางธุรกิจ (เช่นการนำส่ง การแลกเปลี่ยนและส่งคืนสินค้า การออกใบแจ้งราคาและใบเสร็จรับเงิน) และเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันและ/หรือตามคำขอของพันธมิตรทางธุรกิจ

(ค) การบริหารความสัมพันธ์ เพื่อสร้างรหัสผู้ขาย เพื่อจดทะเบียนในรายชื่อ / สารบบของพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้บริการสนับสนุน ติดตามและจัดทำบันทึก เพื่อให้บัตรเข้าออกอาคารและบัตรจอดรถแก่ท่าน และเพื่อเชิญพันธมิตรทางธุรกิจเข้า ร่วมงาน / กิจกรรมต่าง ๆ

(ง) การจดทะเบียนและยืนยันตัวตน เพื่อจดทะเบียน ตรวจสอบ ระบุตัวตน และพิสูจน์ยืนยันตัวท่านหรือตัวตนของท่าน

(จ) การสื่อสารด้านการตลาด เพื่อแจ้งข้อมูลให้ท่านทราบเกี่ยวกับการสื่อสารด้านการตลาด กิจกรรมต่างๆ การขาย การประชาสัมพันธ์ การบอกกล่าว ข่าวสาร การส่งเสริมการขาย ข้อเสนอพิเศษ การจัดแสดงสินค้า การจัดซื้อและการสนับสนุน กิจกรรมพิเศษ และการตลาดแบบตรง

(ฉ) การดำเนินธุรกิจ เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการเก็บรักษาบันทึกภายใน การจัดการภายใน การสอบบัญชี การรายงาน การส่งหรือยื่นข้อมูล การประมวลผลข้อมูล หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายกัน

(ช) ความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันความเสี่ยง แก้ไขความขัดแย้ง เพื่อบันทึกและจัดการข้อพิพาท เพื่อดำเนินการป้องกันอาชญากรรมหรือการทุจริต

(ซ) การปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามภาระผูกพันที่กฎหมายกำหนด สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายนอกประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ เพื่อประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎระเบียบ ข้อบังคับ และนโยบายและกระบวนการภายใน และเพื่อดำเนินการตามการสอบสวนที่เจ้าหน้าที่รัฐกำหนด

 

 

 

 

  1. 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม

4.1 เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในเครือข่ายของ บริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้อธิบายข้างต้น เราจะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดเฉพาะพนักงาน เท่านั้นโดยอาศัยพื้นฐานของความจำเป็นต้องรู้ข้อมูล (need-to-know basis)

4.2 นอกจากนี้เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเครือข่ายของ บริษัทฯ ให้แก่บุคคลต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

(ก) ที่ปรึกษาจากภายนอก ซึ่งรวมถึงทนายความ ผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษี และผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของเรา หรือการต่อสู้หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของเรา ผู้ตรวจติดตาม (Auditor) ระบบหรือมาตรฐานการจัดการต่างๆ

(ข) บุคคลที่สามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี เราอาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ หากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือต้องปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

(ค) โรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัย อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีฉุกเฉินเพื่อปกป้องประโยชน์ของท่าน

(ง) แหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ โฆษณา และ/หรือแพลตฟอร์ม Social Media

4.3 ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต บริษัทฯ จะไม่มีความรับผิดใด ๆ ทั้งสิ้นอันเกิดจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สาม ดังนั้นโปรดตรวจสอบประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจว่าบุคคลเหล่านั้นใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

4.4 เว้นแต่ที่ระบุไว้ในประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เราจะไม่เปิดเผย ขาย จำหน่ายจ่ายโอน เช่าหรือให้เช่าซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม เว้นแต่เราจะได้รับอนุญาตจากท่าน หรือเป็นการทำเพื่อทำได้ธุรกรรมที่มีอยู่ให้กับท่านเสร็จสมบูรณ์

 

  1. 5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ

5.1 บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามที่อยู่ต่างประเทศตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจทำได้เมื่อได้รับความยินยอมของท่านเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าจะอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดแห่งสัญญาระหว่างเราและบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้สามารถกระทำได้โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน

5.2 โปรดทราบว่าประเทศดังกล่าว จากมุมมองของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย อาจไม่มี 'มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่า' ตามที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยกำหนด แม้ว่าการเก็บรวบรวม การเก็บรักษา การเปิดเผย และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเราจะยังคงอยู่ภายใต้ข้อบังคับของประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ดังนั้น หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอเท่ากับมาตรฐานภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ เราจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนให้กับบุคคลอื่นในต่างประเทศเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่เราคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น

  1. 6. ระยะเวลาที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หากมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือทางวินัย อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่าการดำเนินการนั้นจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต

 

  1. 7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมและได้รับอย่างปลอดภัย เราใช้มาตรการความปลอดภัยทางเทคนิค องค์กร การบริหารจัดการ และทางกายภาพในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในระบบของเราเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข ความเสียหาย และการลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยปราศจากอำนาจ นอกจากนี้ เรายังจะตรวจสอบทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อจำเป็น หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เพื่อให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะดำเนินการตามกระบวนการและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเพื่อพยายามป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

  1. 8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในบางกรณี เราอาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนของท่านก่อนที่ท่านจะใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของท่าน

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับ และข้อยกเว้นภายใต้บทบัญญัตินั้น ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังนี้

(ก) การเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยของท่าน เราอาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนจะให้ข้อมูลตามที่ท่านขอ

(ข) การแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศ หากข้อมูลนั้นไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นข้อมูลล่าสุด

(ค) การโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เรามีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับเรา และ (ข) กรณีที่เราได้รับความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่เรามีกับท่าน

(ง) การคัดค้าน: ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(จ) การขอให้ระงับการใช้: ท่านอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี

(ฉ) การถอนความยินยอม: สำหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้เราเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน

(ช) การลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอให้เราดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เว้นเสียแต่ว่าการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวของเรานั้นเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการใช้ หรือการยกขึ้นสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(ซ) การยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเรานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ

 

  1. 9. ช่องทางและระยะเวลาในการดำเนินการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ ช่องทางการของใช้สิทธิ ระยะเวลาการดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิ
การเข้าถึง บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 30 วัน
การแก้ไขให้ถูกต้อง บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 7 วัน
การโอนย้ายข้อมูล บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 30 วัน
การคัดค้าน บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 30 วัน
การขอให้ระงับการใช้ บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 30 วัน
การถอนความยินยอม บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 7 วัน
การลบหรือทำลายข้อมูล บุคลากรของ บริษัทฯ ที่รับผิดชอบธุรกรรมของท่าน 30 วัน

 

  1. 10. รายละเอียดการติดต่อเรา

หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุด้านบน หรือถ้าท่านมีข้อสงสัย ข้อคิดเห็น และ/หรือคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศนี้โปรดติดต่อ ตัวแทนฝ่ายบริหารด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล Data Protection Management Representative : DPMR

เบอร์ติดต่อ 02-2953361-4  วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.

Fax 02-2953365 ตลอด 24 ชั่วโมง

Email info@sivarom.co.th

 

 

 

นโยบายนี้ได้รับอนุมัติโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2565 เมือวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565