PDPA_visitor

ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำหรับลูกค้า / ผู้มาติดต่อ
บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย


1. ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1.1. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อธิบายถึงวิธีการที่ บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย จำกัด (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัทฯ” หรือ “เรา”) เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังภายในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต (“ท่าน”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั่นเอง

1.2. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้กับช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าทางต่อหน้า ผ่านสำนักงานโครงการ สถานที่ประกอบกิจการของเรา งานกิจกรรม หรือ ทางโทรศัพท์ผ่านศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือทางออนไลน์ ผ่านทางอีเมล หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (เช่น Facebook หรือ Line) และช่องทางอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน และ/หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ เว็บไซต์ https://www.sivarom.co.th และ/หรือเว็บไซต์อื่นๆ (“เว็บไซต์”) และปฏิสัมพันธ์อื่นๆ ระหว่างท่านกับเรา (ซึ่งต่อไปนี้จะรวมเรียกกันว่า “ช่องทางการสื่อสาร”)

1.3. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่นิยามไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลแบบพิเศษ (Sensitive Data)

1.4. บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครอง และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมและมีการออกกฎหมายใหม่ใช้บังคับแทนเป็นครั้งคราว) เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศที่เราเข้าไปและมุ่งหมายจะเข้าไปดำเนินธุรกิจ (“กฎหมายที่ใช้บังคับ”) บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เท่านั้น

1.5. โปรดอ่านเนื้อหาต่อไปนี้อย่างระมัดระวังเพื่อทำความเข้าใจมุมมองและการปฏิบัติของ บริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและวิธีการที่เราจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลบางประการเกี่ยวกับท่านมีความจำเป็นสำหรับการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน หากท่านไม่ตกลงที่จะให้ข้อมูลดังกล่าว เราจะไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน และท่านจะไม่สามารถใช้หรือเข้าถึงฟังก์ชั่นและการใช้งานของบริการและผลิตภัณฑ์ของเราทั้งหมดได้

1.6. โดยทั่วไปแล้วกิจกรรมของเรา ไม่มุ่งเน้นที่ผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ดังนั้น หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่กำหนดในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นคนไร้ความสามารถ (แล้วแต่กรณี) เว้นแต่จะมีสิทธิตามกฎหมาย และท่านต้องการใช้บริการของเรา ใช้แอปพลิเคชันของเรา หรือบริการอื่นๆ จากเรา ท่านจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรมก่อนติดต่อเราหรือก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เรา เราไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหากเราทราบอยู่แล้วว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลของผู้เยาว์ที่อายุน้อยกว่า 20 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือเป็นของคนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย

1.7. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ โดยมีดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียว ในการปรับเปลี่ยน แก้ไข ลบ และปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว บริษัทฯ จะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อแจ้งให้ท่านทราบและในลักษณะที่เหมาะสมถึงการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดใดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ (เช่น โดยส่งนโยบายที่แก้ไขให้ท่านทางอีเมล หรือโดยประกาศการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในช่องทางการสื่อสารของเรา) หากการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ต้องได้รับความยินยอมจากท่านตามกฎหมายที่ใช้บังคับ เราจะขอความยินยอมจากท่านเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

 

  1. 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน

เราอาจมีการเก็บรวบรวมหรือรับข้อมูลประเภทดังต่อไปนี้ซึ่งอาจรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงหรือโดยอ้อมจากท่าน หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ ผ่านทางบริษัทย่อย (“บริษัทย่อย”) บริษัทอื่นๆ พันธมิตรทางธุรกิจ (เช่น บริษัทสถาบันการเงิน, บริษัทให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นต้น)

2.1. ข้อมูลที่ท่านให้แก่เรา ซึ่งรวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่ท่านให้ไว้กับเราด้วยการสื่อสารกับเราผ่านช่องทางการสื่อสาร ข้อมูลดังกล่าวอาจรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ

(ก) ข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ วันเกิด อาชีพ ตำแหน่งงาน รายละเอียด และ/หรือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ หมู่เลือด รูปถ่าย ลายมือชื่อ และข้อมูลอื่นใดที่ท่านเลือกที่จะแบ่งปันให้แก่เราซึ่งอาจถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

(ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ อีเมล อีเมลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ทางธุรกิจ ที่อยู่ทางธุรกิจ (ซึ่งรวมถึงเมือง รหัสไปรษณีย์ และประเทศ) และชื่อผู้ใช้ในโซเชียลมีเดีย (เช่น ชื่อผู้ใช้ Facebook และ Line ID)

(ค) ข้อมูลการเงิน เช่น เงินเดือน ช่วงเงินเดือน สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สถาบันการเงินที่ท่านเลือกใช้ และรายละเอียดภายใต้เอกสารคำขอสินเชื่อ

(ง) ข้อมูลอื่นๆ เช่น ความคิดเห็น คำถาม การสอบถาม ข้อร้องเรียน คำตอบสำหรับแบบสอบถาม ความชื่นชอบ ความสนใจ หรืองานอดิเรก

(จ) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ศาสนาในบัตรประจำตัวประชาชน เชื้อชาติในเอกสารการยืนยันตัวตน

2.2. ข้อมูลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมเกี่ยวกับท่าน สำหรับการเข้าชมโครงการ เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้จากการที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา ผ่านช่องทางการสื่อสารของเรา หรือจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ โดยอัตโนมัติ

(ก) ข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รูปภาพ และ/หรือ เสียง

(ข) ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ของอุปกรณ์สื่อสาร

(ค) ความสนใจ เช่น แผนการซื้อที่อยู่อาศัย งบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัย เหตุผลในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้จำหน่ายอื่น

(ง) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น หมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ที่อยู่ไอพี) ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ของท่านกับอินเตอร์เน็ต ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ข้อมูลการปฏิบัติการ ประเภทและเวอร์ชั่นของแพลตฟอร์มปฏิบัติการ การตั้งค่าเขตเวลา คุกกี้ พิกเซล และการรายงานด้านความปลอดภัย ซึ่งรวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ขององค์กร (เช่น ผู้ใช้แต่ละรายเข้าเว็บไซต์อะไรบ้าง ดาวน์โหลดเอกสารอะไรบ้าง เหตุการณ์ด้านความปลอดภัย มาตรการป้องกันโดยเกตเวย์ ฯลฯ) ข้อมูลกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหา การสร้างเป้าหมายหรือการใช้เอกสารที่ได้รับการคุ้มครองบนเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนการอนุญาตและข้อมูลของเอกสารเกี่ยวกับบุคคลที่กระทำกิจกรรมดังกล่าว

(จ) คุกกี้ เมื่อท่านเข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน จะมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับบริการที่ท่านใช้ และวิธีการที่ท่านใช้บริการดังกล่าว

2.3. ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ พยาน หรือคู่กรณี ซึ่งรวมถึง ชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดที่ท่านได้ให้ไว้แก่เราในทุกรูปแบบ

ในการให้ข้อมูลของบุคคลที่สามแก่เรา ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำการดังกล่าว และอนุญาตให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น หากจำเป็น  และแม้ว่าข้อมูลใดภายใต้ข้อ 2. อาจไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล แต่ถ้ารวมกับข้อมูลอื่นหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลดังกล่าวอาจใช้ระบุตัวตนท่านได้ จึงถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้เช่นกัน ดังนั้น เราจะปฏิบัติกับข้อมูลนี้โดยใช้มาตรฐานเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม เมื่อเราประมวลผลข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้หรือในรูปแบบข้อมูลสถิติซึ่งไม่สามารถระบุตัวท่านได้อีกต่อไป ในกรณีนี้ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะไม่ใช้บังคับ

 

  1. 3. เหตุใดเราจึงเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและฐานทางกฎหมาย

บริษัทฯ รวมทั้งบริษัทย่อย อาจเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ได้อธิบายไป โดยอาศัยฐานตามกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

3.1. วัตถุประสงค์ที่จำเป็นต้องมีความยินยอมของท่าน

(ก) การตลาดและการติดต่อสื่อสาร เพื่อทำการตลาด การทำการตลาดซ้ำ การสื่อสาร การขาย การเสนอข้อเสนอพิเศษ การเสนอโปรโมชั่น การแจ้งเตือน การแจ้งข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ จาก บริษัทฯ บริษัทย่อย ในกรณีที่เราไม่สามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นได้

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลแบบพิเศษ (Sensitive Data) เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอม ซึ่งได้แก่ ศาสนาของท่านในบัตรประจำตัวประชาชน เชื้อชาติในเอกสารยืนยันตัวตนสำหรับการยืนยันและพิสูจน์ตัวตน

หากฐานทางกฎหมายคือความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาโดยอาศัยความยินยอมของท่านก่อนที่จะถอนความยินยอม

3.2. วัตถุประสงค์ที่เราอาจดำเนินการโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • การให้ข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของบริการ ผลิตภัณฑ์ เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของเรา ซึ่งรวมถึงปัญหาต่างๆ เช่น บั๊ก หรือปัญหาด้านการเชื่อมต่อ เพื่อแจ้งความคืบหน้าต่างๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหา เพื่อตอบข้อสงสัยของท่านและดำเนินการตามคำขอของท่าน หรือเพื่อตอบกลับคำถามและความคิดเห็นของท่าน เพื่อส่งข้อมูลด้านบริหารจัดการให้แก่ท่าน (เช่น การเปลี่ยนแปลงไปยังข้อกำหนด เงื่อนไข และนโยบาย) เพื่อทำความเข้าใจคำติชมเกี่ยวกับสินค้าของ บริษัทฯ และช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
  • การพัฒนาสินค้า/บริการ ซึ่งรวมถึง ช่องทางการสื่อสารของเรา เพื่อดำเนินการให้แน่ใจว่าเนื้อหาจากช่องทางการสื่อสารของเราได้รับการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพสำหรับท่าน เพื่อพัฒนารูปแบบสินค้าใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงและปรับประสบการณ์และเนื้อหาของช่องทางการสื่อสารตามกิจกรรมของท่านบนช่องทางการสื่อสารของเราจากข้อมูลประวัติการใช้ช่องทางการสื่อสารของเรา และเพื่อสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดและโฆษณาสำหรับแต่ละบุคคล
  • การสื่อสารด้านการตลาด เพื่อทำการตลาด การทำการตลาดซ้ำ การสื่อสาร การขาย การเสนอข้อเสนอพิเศษ การเสนอโปรโมชั่น การแจ้งเตือน การแจ้งข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าจาก บริษัทฯ บริษัทย่อย เพื่อสร้างโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตตามความสนใจ/พฤติกรรมของลูกค้า สร้างกลยุทธ์ทางการตลาดและโฆษณาสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อสร้างโฆษณาจากคุกกี้และการติดตามพิกเซล เพื่อบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย และ/หรือ เสียง สำหรับการสร้างเนื้อหาการประชาสัมพันธ์ และการตลาด (เช่น โพสต์ทางโซเชียลมีเดีย หรือสำหรับการถ่ายทอดสด) เพื่อทำการตลาดโดยอิงกลุ่มเป้าหมายผ่านทางอีเมล/หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อกระจายข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับงานเปิดตัวสินค้า และเพื่อใช้ข้อมูลของท่านในการโฆษณาความคิดเห็นของลูกค้า
  • การบริหารจัดการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการธุรกิจของเรา รวมถึงการจัดการระบบปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบติดต่อสื่อสาร ระบบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อทำการวิเคราะห์ที่จำ เป็นเพื่อตรวจจับข้อมูลที่ประสงค์ร้ายและทำความเข้าใจว่าข้อมูลเหล่านี้จะกระทบต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างไรบ้าง เพื่อปรับใช้วิธีการแก้ไขต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์และระบบจากการโจมตี เพื่อให้วิธีการแก้ไขและรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดและเป็นปัจจุบันสำหรับอุปกรณ์มือถือและระบบไอที และอัปเดตวิธีการการรักษาความปลอดภัยของเรา
  • การปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมถึงเพื่อการป้องกันอาชญากรรมและการทุจริต และวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) ตามภาระผูกพันที่กฎหมายกำหนด สิทธิและหน้าที่ภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายนอกประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ เพื่อประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎระเบียบ ข้อบังคับ และนโยบายและกระบวนการภายใน และเพื่อดำเนินการตามการสอบสวนที่เจ้าหน้าที่รัฐกำหนด
  • การปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของเรา เพื่อปกป้องสิทธิ ทรัพย์สิน ความปลอดภัย หรือการดำเนินการของเราหรือของบริษัทย่อย หรือ ท่าน หรือ บุคคลอื่นๆ เพื่อให้เราสามารถขอการเยียวยาหรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเรา เพื่อบังคับใช้หรือบังคับใช้สัญญาการได้รับสิทธิ (license) ในการใช้แอปพลิเคชันของผู้ใช้ปลายทางและข้อตกลงอื่นๆ หรือเพื่อสอบสวนในกรณีที่สงสัยว่ามีการละเมิดข้อตกลงดังกล่าว เพื่อก่อตั้ง ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิตามกฎหมายของเราหรือการดำเนินการตามกฎหมาย และในกรณีของการขาย โอน ควบรวม ฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์อื่นที่คล้ายกัน เราอาจต้องทำการโอนข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลที่สามโดยถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรม
  • การตรวจจับการทุจริต เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน และเพื่อดำเนินการตรวจสอบทางกฎหมายหรือกฎข้อบังคับอื่นๆ และป้องกันการทุจริต ทั้งนี้ รวมไปถึงการตรวจสอบและการทำบันทึกภายใน การจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านการทุจริต ระบบ และการควบคุมทางธุรกิจอื่นๆ
  • ชีวิต เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายที่เกิดต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

 

  1. 4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม

4.1. บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทย่อย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้อธิบายข้างต้น เราจะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจกว่าการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดเฉพาะพนักงาน เท่านั้นโดยอาศัยพื้นฐานของความจำเป็นต้องรู้ข้อมูล (need-to-know basis)

4.2. นอกจากนี้เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกบริษัทย่อย ให้แก่บุคคลต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

(ก) พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา (เช่น สถาบันทางการเงิน บริษัทให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ผู้ให้บริการทางการเงิน) ซึ่งรวมถึง พันธมิตรของเราที่ขายสินค้าหรือบริการของเราให้แก่ท่าน หรือผู้ที่เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการร่วมกับเรา หรืออาจมีการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของพันธมิตรเหล่านี้ให้แก่ท่าน

(ข) นายหน้าที่ได้รับการแต่งตั้ง ในบางครั้ง บริษัทฯ อาจเปิดเผยและได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากนายหน้าที่ท่านเลือก หรืออยู่ใกล้กับท่าน เพื่อให้บริการแก่ท่าน

(ค) บุคคลที่สามตามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี เราอาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (เช่น กรมที่ดิน) ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลที่สามอื่นๆ หากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือต้องปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

4.3. เท่าที่กฎหมายอนุญาต บริษัทฯ จะไม่มีความรับผิดใดๆ ทั้งสิ้นอันเกิดจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สาม ดังนั้น โปรดตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจว่าบุคคลเหล่านั้นใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร เมื่อได้รับคำขอ บริษัทฯ จะยืนยันชื่อของบุคคลที่สามแต่ละรายที่ได้รับหรือจะได้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปให้

4.4. เว้นแต่ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เราจะไม่เปิดเผย ขาย จำหน่ายจ่ายโอน หรือให้เช่าซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอก ยกเว้นแต่เราจะได้รับอนุญาตจากท่าน หรือเพื่อทำธุรกรรมให้กับท่าน เราไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอกเพื่อทำการตลาดแบบตรงของบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน

 

  1. 5. คุกกี้

5.1 คุกกี้ คือไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่มีข้อมูลขนาดเล็กที่ถูกส่งไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้งานเว็บไซต์โดยเว็บเซิร์ฟเวอร์ และจัดเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บถาวร เก็บรวบรวมข้อมูลการนำทางเพื่อทำการวิเคราะห์ทางสถิติ และเสนอบริการผู้ใช้ตามความสนใจหรือตำแหน่งของผู้ใช้

เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมช่องทางการสื่อสารของเรา โดยการยอมรับการเก็บคุกกี้ เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างจากท่านโดยการใช้คุกกี้ในประวัติการเรียกใช้งาน โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงจำนวนเพจที่เข้าชม พฤติกรรมการใช้งาน และเวลาที่ใช้ไปในช่องทางการสื่อสารของเรา เราใช้คุกกี้ที่เก็บในการทำให้เว็บไซต์ทำหน้าที่ต่างๆ ได้และเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ออนไลน์ของท่าน

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากการใช้คุกกี้ เราจะประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้

5.2 คุกกี้ใช้อย่างไร คุกกี้ที่เราเก็บจากช่องทางการสื่อสารของเราใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ กล่าวคือ เพื่อให้เว็บไซต์ทำหน้าที่ต่างๆ ได้ และเพื่อให้สินค้า ที่เราเสนอให้ท่านทำงานได้อย่างเหมาะสม เพื่อปรับปรุงบริการออนไลน์ของท่าน เพื่อทำการวัดเรตติ้ง เพื่อตรวจสอบดูแลความมั่นคงปลอดภัย เพื่อให้โฆษณาที่ถูกต้องที่สุดและสอดคล้องกับการเข้าชมครั้งล่าสุดของท่าน เพื่อสร้างรายงานภายใน และการโฆษณาในโซเชียลมีเดียและในสื่ออื่นๆ อย่างประสบผลสำเร็จ

ท่านสามารถปิดการตั้งค่าคุกกี้ได้โดยการเข้าไปที่การตั้งค่าของเบราว์เซอร์ของท่านและปรับการตั้งค่าคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจำกัดการเก็บคุกกี้ในอนาคต

 

  1. ระยะเวลาที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หากมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือทางวินัย อาจต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่าการดำเนินการนั้นจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ด้วย หลังจากนั้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต

 

  1. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมและได้รับอย่างปลอดภัย เราใช้มาตรการความปลอดภัยทางเทคนิค องค์กร การบริหารจัดการ และทางกายภาพในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในระบบของเราเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข ความเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ และการลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือโดยปราศจากอำนาจ นอกจากนี้ เรายังจะตรวจสอบทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อจำเป็น หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เพื่อให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เมื่อ บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะดำเนินการตามกระบวนการและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเพื่อพยายามป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

  1. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในบางกรณี เราอาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนของท่านก่อนที่ท่านจะใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของท่าน โดยภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับ ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังนี้

(ก) สิทธิการเข้าถึง : ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยของท่าน เราอาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนจะให้ข้อมูลตามที่ท่านขอ

(ข) สิทธิการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศให้ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(ค) สิทธิการโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เรามีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับเรา และ (ข) กรณีที่เราได้รับความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่เรามีกับท่าน

(ง) สิทธิการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การคัดค้านการตลาดแบบตรง (Direct Marketing)

(จ) สิทธิการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี

(ฉ) สิทธิการถอนความยินยอม : สำหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้เราเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน

(ช) สิทธิการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านอาจมีสิทธิขอให้เราดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เว้นเสียแต่ว่า การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวของเรานั้นเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(ซ) สิทธิการยื่นเรื่องร้องเรียน : ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเรานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ

 

  1. ช่องทางและระยะเวลาการดำเนินการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ ช่องทางการของใช้สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
การเข้าถึง DPMR 30 วัน
การแก้ไขให้ถูกต้อง DPMR 7 วัน
การโอนย้ายข้อมูล DPMR 30 วัน
การคัดค้าน DPMR 30 วัน
การขอให้ระงับการใช้ DPMR 30 วัน
การถอนความยินยอม DPMR 7 วัน
การลบหรือทำลายข้อมูล DPMR 30 วัน

 

  1. 1 รายละเอียดการติดต่อเรา

หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุด้านบน หรือถ้าท่านมีข้อสงสัย ข้อคิดเห็น และ/หรือคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศนี้โปรดติดต่อ ตัวแทนฝ่ายบริหารด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล Data Protection Management Representative : DPMR

เบอร์ติดต่อ 02-2953361-4  วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.

Fax 02-2953365 ตลอด 24 ชั่วโมง

Email info@sivarom.co.th

 

 

 

นโยบายนี้ได้รับอนุมัติโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2565 เมือวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565